8 ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้เครื่อง CPAP และวิธีแก้ไข

การใช้เครื่องมือที่เป่าลมเข้าไปในทางเดินหายใจส่วนบน เพื่อทำให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้นหรือไม่เกิดการอุดกั้นขณะนอนหลับ ที่เรียกว่า เครื่อง CPAP (Continuous Positive Airway Pressure) นั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรน (snoring) และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งปฏิเสธการรักษาด้วยเครื่องครอบฟัน (Oral appliance) หรือ การผ่าตัด
เครื่องมือนี้เป็นการนำหน้ากากครอบจมูกขณะนอนหลับ ซึ่งหน้ากากนี้จะต่อเข้ากับเครื่องที่สามารถขับลมซึ่งมีแรงดันเป็นบวกออกมา ลมที่ขับออกมาขณะนอนหลับจะช่วยค้ำยัน ไม่ให้ทางเดินหายใจเกิดการอุดกั้นขณะหายใจเข้า
การรักษาด้วยการใช้เครื่อง CPAP เป็นการรักษาอาการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับปานกลางถึงรุนแรง (moderate to severe OSA) ที่ดีที่สุด ซึ่งควรพิจารณาลองใช้ในผู้ป่วยทุกราย ก่อนพิจารณาการผ่าตัดเสมอ
8 ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้เครื่อง CPAP และวิธีแก้ไข
ปัญหา | วิธีแก้ไข |
---|---|
1. ทนระดับความดันไม่ได้ | ตรวจสอบเครื่อง |
ค่อยๆ ปรับเพิ่มระดับความดัน | |
ลองใส่เครื่องขณะยังตื่น | |
ปรับลดความดัน 1-2 ซม. น้ำ (ซึ่งไม่ค่อยแนะนำให้ทำ) | |
เปลี่ยนเป็นเครื่อง CPAP ที่ปรับความดันอัตโนมัติ (Auto-CPAP) หรือเครื่องความดันบวกแบบสองระดับ (Bilevel Positive Airway Pressure: BiPAP) | |
2. ลมรั่วจากหน้ากาก | รัดหน้ากากให้แน่นขึ้น |
ลดขนาดหน้ากากให้เหมาะสม | |
เช็คการตั้งค่าแรงดันลมว่าแรงเกินไปหรือไม่ | |
(อ่านเพิ่มเติม: วิธีการเลือกหน้ากาก CPAP ให้เหมาะกับตัวท่าน) | |
3. รอยกดทับจากหน้ากาก หรือ ความรู้สึกแน่นจากการใส่หน้ากาก | คลายสายหน้ากากไม่ให้แน่นจนเกินไป |
เลือกหน้ากากที่มีขนาดพอเหมาะ | |
เปลี่ยนขนาด หรือชนิดหน้ากาก | |
งดใช้เครื่องเป็นบางวัน | |
4. อาการคัดแน่นจมูก | ใช้น้ำเกลือพ่นจมูกเพื่อให้ความชุ่มชื้นก่อนเริ่มใช้เครื่อง |
ใช้ CPAP รุ่นที่มีเครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้น (humidifier) ร่วมด้วย | |
ใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก | |
รับประทานยาต้านฮิสตามีนชนิดไม่ง่วง | |
เปลี่ยนหน้ากากเป็นชนิดครอบปากร่วมด้วย | |
ในรายที่อาการคัดจมูกไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ หู คอ จมูก | |
5. การกลัวที่แคบ | เปลี่ยนชนิดหน้ากาก เป็นชนิดสอดรูจมูก |
ลองใส่เครื่องขณะยังตื่น | |
ญาติควรให้กำลังใจแก่ผู้ป่วย | |
6. การนอนไม่หลับจากการใช้เครื่อง | ลองใส่เครื่องขณะยังตื่น |
หลีกเลี่ยงกาแฟ และแอลกอฮอล์ในช่วง 8 ชั่วโมงก่อนนอน | |
7. ปากแห้ง | ใช้ CPAP รุ่นที่มีเครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้น (humidifier) ร่วมด้วย |
เปลี่ยนมาใช้หน้ากากแบบครอบปากและจมูก | |
ใช้สายรัดคางร่วมด้วย | |
รับประทานน้ำ 1 แก้วก่อนนอน | |
ควรพยายามหลีกเลี่ยงอากาศเย็น โดยเฉพาะแอร์ พัดลมเป่า ถ้าต้องการเปิดแอร์ ควรตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้สูงกว่า 25 องศาเซลเซียสเพื่อไม่ให้อากาศเย็นจนเกินไป ในกรณีที่ใช้พัดลมไม่ควรเปิดเบอร์แรงสุด และควรให้พัดลมส่ายไปมา ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมโดยตรง ควรนอนอยู่ห่างจากเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมพอสมควร หรือไม่ให้อยู่ในทิศทางของลม | |
8. เครื่องหลุดโดยไม่ตั้งใจขณะหลับ | ให้ความสบายใจแก่ผู้ป่วยว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ |
ใช้ CPAP รุ่นที่มีเครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้น (humidifier) ร่วมด้วย | |
ใช้สายรัดคางร่วมด้วย | |
ตั้งสัญญาณเตือน เมื่อมีการลดลงของระดับความดัน |
ที่มา – บทความเรื่อง “ปัญหาที่พบบ่อยในการใช้เครื่องเป่าลมในทางเดินหายใจส่วนบน (CPAP) รักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และวิธีแก้ไข”
รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน
สาขาโรคจมูกและโรคภูมิแพ้
ภาควิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล