วิธีแก้อาการนอนกรน ทำแล้วได้ผลจริง

วิธีแก้นอนกรนที่ได้ผลจริง

การนอนหลับสนิทตลอดทั้งคืน ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายทำให้ตื่นมาแล้วรู้สึกสดชื่น ในทางกลับกันหากการนอนหลับถูกรบกวนจากปัจจัยต่างๆหรือทำให้นอนหลับไม่สนิท นอนไม่เต็มตื่นหรือเกิดจากการนอนกรนจนทำให้กลายเป็นโรคนอนไม่หลับ ทำให้ง่วงนอนตลอดเวลา ส่งผลให้เป็นปัญหาต่อการทำงาน สำหรับคนที่มีปัญหาเหล่านี้ มีวิธีแก้อาการนอนกรนทำแล้วได้ผลจริง มาแนะนำ

สาเหตุของการนอนกรน

นอนกรนเกิดจาก ภาวะที่ทางเดินหายใจส่วนบนตีบและแคบ เพราะขณะที่กำลังหลับกล้ามเนื้อในช่องคอก็จะเกิดการคลายตัวและหย่อนลงมาปิดทางเดินหายใจ ทำให้ลมหายใจไม่สามารถผ่านไปยังหลอดลมและปอดได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ และเนื่องจากช่องลมถูกปิดกั้นจนเล็กลงจึงทำให้เกิดเป็นเสียงกรนขึ้น

นอนกรนเกิดจากหลายสาเหตุ เช่นความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ อายุมาก เป็นภูมิแพ้ ต่อมทอนซิลโตจนขวางทางเดินหายใจ ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอหรือนอนไม่เต็มตื่น ส่งผลให้อ่อนเพลีย ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ส่งผลให้ความคิด สมาธิ และความจำถดถอยลง อาจทำให้เกิดการหยุดหายใจขณะหลับเป็นช่วงๆ หรือเกิดโรคอื่นๅ เช่น โรคนอนไม่หลับ ความดันสูง และเบาหวานตามมาได้

วิธีแก้อาการนอนกรน

  1. ลดน้ำหนัก ส่วนหนึ่งของอาการนอนกรน มาจากน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานมากหรือเป็นโรคอ้วน ทำให้เนื้อบริเวณคอมีขนาดใหญ่ หนา ผนังลำคอ เพดาน หย่อนคล้อย วิธีแก้นอนกรนหากลดน้ำหนักตัวลงได้ก็จะทำให้การนอนกรนลดน้อยลงหรือหายได้
  2. เปลี่ยนท่านอน ท่านอนในบางท่าอาจทำให้เกิดการหายใจไม่สะดวก ทั้งนี้ผู้ที่นอนกรนเมื่อรู้ว่าท่านอนใดนอนแล้วเกิดการกรน ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงและเปลี่ยนท่านอนบ้าง เช่น เมื่อนอนหงายแล้วเกิดการกรนมากขึ้น ก็ควรเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง จะช่วยทำให้การนอนกรนลดลงได้
  3. แก้นอนกรน ด้วยการงดหรือหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง ทำให้กล้ามเนื้อส่วนบนของทางเดินหายใจหย่อนอุดกั้นทางเดินหายใจ ส่งผลให้มีการกรนเกิดมากขึ้น ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรงด 2-5 ชั่วโมงก่อนการเข้านอน
  4. แก้นอนกรน ด้วยการเลิกบุหรี่ พบว่าบุหรี่เป็นสาเหตุของการทำให้ทางเดินหายใจอักเสบ ส่งผลให้คัดจมูก โพรงจมูกแคบ การหายใจทำได้ไม่สะดวก และยังพบอีกว่ายิ่งสูบบุหรี่จัดมากขึ้นเท่าใด ยิ่งส่งผลให้ผู้ที่สูบบุหรี่นอนกรนรุนแรงยิ่งขึ้น หากไม่ได้รักษานอนกรนก็จะยิ่งรุนแรงและอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับซึ่งจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น
  5. หลีกเลี่ยงการกินยานอนหลับ เพราะยานอนหลับมีฤทธิ์ทำให้ร่างกายของผู้ที่กินยาหลับสบายหรือหลับลึก ซึ่งเป็นการทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆรวมทั้งกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจผ่อนคล้อยและผ่อนคลายด้วย ทำให้คอ คอหอยและลิ้นหย่อน เมื่อหายใจก็จะเกิดการสั่นจนทำให้เกิดการนอนกรนได้ง่ายขึ้น
  6. แก้นอนกรน โดยการปรับสภาพแวดล้อม ขจัดหรือลดฝุ่นในห้องนอน ด้วยการทำความสะอาดที่นอน ผ้าห่ม ปลอกหมอน ผ้าม่าน พื้นห้อง ควรทำความสะอาดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง รวมทั้งไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้ามานอนในห้องนอน เพราะฝุ่นหรือไรฝุ่นจากสัตว์เลี้ยง ทำให้เกิดภูมิแพ้ ทำให้ทางเดินหายใจอักเสบได้ง่าย และส่งผลให้เกิดการนอนกรนได้
  7. ดื่มน้ำ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แก้นอนกรนได้ เนื่องจากร่างกายของคนเราต้องการน้ำ 8-10 แก้วต่อวัน การดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้จมูกมีความชุ่มชื้น และช่วยลดความข้นของน้ำมูก ส่งผลให้หายใจสะดวกเป็นการป้องกันปัญหาหายใจทางปาก ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของอาการนอนกรน
  8. แก้นอนกรน ด้วย เครื่องอัดอากาศ และ หน้ากาก CPAP เป็นการใช้เครื่องช่วยหายใจที่ใช้แล้วได้ผลดี สามารถแก้อาการนอนกรนให้หายขาดได้ เพราะเป็นการใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวกในทางเดินหายใจ เพื่อเปิดทางเดินหายใจที่ตีบแคบให้กว้างขึ้น
  9. พบแพทย์ ในกรณีที่การกรนส่งผลต่อการนอนหลับ จนทำให้เกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับเป็นช่วงๆ ควรพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยถึงสาเหตุของการกรนอย่างละเอียด การรักษาสำหรับผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ แพทย์จะทำการรักษาตามขั้นตอน หรือรักษาตามอาการและความรุนแรงในแต่ละบุคคล

อ่านเพิ่มเติม: โรงพยาบาลรักษานอนกรนในเขตกรุงเทพ

สรุป

สำหรับอันตรายที่เกิดจากการนอนกรน นอกจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ยังรวมไปถึงการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับสมองและหลอดเลือดหัวใจ เช่นโรคความดันโลหิตสูง ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคของหลอดเลือดสมอง และยังอาจทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงส่งผลให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการกรนที่รุนแรงมากขึ้นควรศึกษาให้รู้สาเหตุว่านอนกรนเกิดจากอะไร เพื่อหาแนวทางการรักษาให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป

New call-to-action
New call-to-action

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *