เมลาโทนิน (Melatonin) คืออะไร รักษาโรคนอนไม่หลับได้จริงหรือ?
เมลาโทนิน (Melatonin) คือฮอร์โมนที่สมองของเราสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติ เพื่อช่วยควบคุมการนอนและเป็นนาฬิกาชีวภาพ (Circadian Rhythm) ของร่างกาย โดยสมองจะหลั่งฮอร์โมนชนิดนี้ขึ้นมาในช่วงเวลากลางคืน ทำให้ร่างกายรู้สึกง่วงและทำให้หลับ
โดยปกติสมองจะผลิตเมลาโทนินออกมาในช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม และจะคงอยู่ในกระแสเลือดเป็นเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ก่อนที่จะค่อยๆ ลดลงพร้อมๆ กับการเพิ่มขึ้นของแสงอาทิตย์ จนกระทั่งถึงเวลาประมาณ 9 โมงเช้า ระดับเมลาโทนินในร่างกายจะลดต่ำลงจนวัดระดับไม่ได้
ในปัจจุบันมีการนำเมลาโทนินไปใช้ในการรักษาและยับยั้งโรคต่างๆ เช่น โรคนอนไม่หลับ หรือ Insomnia และใช้ในการช่วยลดระดับไตรกลีเซอรอลในเลือดอีกด้วย
ประเภทของเมลาโทนิน
- ประเภทปลดปล่อยทันที – เมลาโทนินประเภทนี้มีทั้งขนาด 3 มก., 5 มก., 10 มก. เมลาโทนินรูปแบบนี้ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนยาในประเทศไทย
- ประเภทออกฤทธิ์เนิ่น – เมลาโทนินประเภทนี้จัดเป็นยาและต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ปัจจุบันมีเพียงยี่ห้อ Circadin® เท่านั้นที่ได้รับการจดทะเบียนกับ อย. สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปและต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น แต่ถ้าเป็นเมลาโทนินที่นำเข้าจากต่างประเทศในรูปแบบต่างๆ ยังถือเป็นยาผิดกฎหมาย (อ้างอิงจากเว็บไซต์ doctorraksa)
เมลาโทนินมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับและเกี่ยวข้องกับวงจรการนอนของเรา ดังนั้นจึงมีการนำเมลาโทนินมาประยุกต์ใช้ในการรักษาอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการนอนเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอาการนอนไม่หลับเมื่ออายุมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม: โรคร้ายที่มากับอาการนอนไม่หลับ
ในปัจจุบัน เราสามารถผลิตเมลาโทนินด้วยวิธีการสังเคราะห์ได้แล้ว โดยมักผลิตเป็นอาหารเสริมหรือผลิตเป็นยาในการรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ
อย่างไรก็ดี ท่านไม่ควรซื้อเมลาโทนินมารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์และใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
ประโยชน์เมลาโทนิน พอสรุปได้มีดังนี้
- รักษาโรคนอนไม่หลับ (Insomnia)
- รักษาความผิดปกติของนาฬิกาชีวภาพ
- รักษากลุ่มอาการนอนหลับผิดเวลา (Delayed sleep phase syndrome) อาการของโรคนี้คือไม่สามารถนอนหลับก่อนเวลาตีสองได้
- บรรเทาอาการง่วงนอนเนื่องจากเจ็ทแลค (Jet lag)
- ช่วยคนที่ทำงานเป็นกะ (Shift work) ให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
ข้อควรระวัง
เมลาโทนินอาจทำให้รู้สึกง่วง จึงควรรับประทานก่อนจะเข้านอน ไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรหลังจากรับประทานเข้าไป หากคุณรับประทานยาอื่นเป็นประจำ มีโรคประจำตัว กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เป็นเบาหวาน มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุลจากโรคอื่น หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือนและกำลังรับฮอร์โมนทดแทน ไม่ควรรับประทานเมลาโทนินและควรปรึกษาแพทย์ก่อน
เนื่องจากเมลาโทนินอาจกระตุ้นภูมิคุ้มกันของคุณมากเกินไป ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันต่อต้านร่างกายตัวเอง หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกันไม่ควรรับประทานเมลาโทนิน
แม้ว่าเมลาโทนินจะเป็นฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกาย แต่การใช้อาหารเสริมที่มีเมลาโทนินเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ มวนท้อง วิตกกังวล หงุดหงิด หรืออาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าในระยะสั้นได้ ดังนั้นแพทย์จึงมักแนะให้ใช้เมลาโทนินในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
สามารถกินร่วมกับยาต้านซึมเศร้า Fluoxitinได้ไหมคะ
เรียนคุณรชณิศ ต้องรบกวนปรึกษาแพทย์ที่รักษาอยู่หรือแพทย์ด้านระบบประสาทในจุดนี้ครับ เนื่องจากรายละเอียดในแต่ละเคสแต่ละคนไข้ไม่เหมือนกันครับ
สังเคราะห์เมลาโทนินจากอะไรอะคะ พืชหรือสัตว์ หรืออะไรคะ
จากที่ผมศึกษาดูพบว่าเมลาโทนินมีการสกัดได้ 2 แบบคือ จากธรรมชาติและจากการสังเคราะห์ ถ้าจากธรรมชาติคือจะสกัดจากต่อมไร้ท่อของสัตว์แต่แบบนี้ไม่นิยมเพราะอาจมีความเสี่ยงเรื่องไวรัส ส่วนแบบสังเคราะห์จะทำจากสารที่ไม่ได้มาจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งผมไม่มีข้อมูลว่าเป็นสารอะไรบ้างครับ
ทานต่อเนื่องได้นานขนาดไหนคะ และปริมาณเท่าไร
แนะให้ใช้เมลาโทนินในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ส่วนจะใช้ได้นานแค่ไหนและปริมาณเท่าไหร่ ต้องรบกวนปรึกษาแพทย์ที่รักษาท่านอยู่หรือแพทย์ด้านระบบประสาทครับ เนื่องจากเงื่อนไขในแต่ละคนไข้จะไม่เหมือนกันครับ
ต้องกินก่อนนอนสักกี่ชั่วโมง ถึงจะได้ผลคะ?
ควรรับประทานก่อนเวลาเข้านอนประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของ รพ.จุฬา ได้ที่นี่ครับ
อยากขอข้อมูลว่า 5,10,12 มิลลิกรัมเราจะทานแบบใหนดีครับ
ปริมาณที่แพทย์และเภสัชกรส่วนใหญ่แนะนำคือ ควรกินเมลาโทนินที่ปริมาณไม่เกิน 5 มก. ต่อวัน จะปลอดภัยต่อร่างกาย ในประเทศไทยเมลาโทนินที่ได้รับอนุญาตให้วางจำหน่ายจะมีปริมาณอยู่ที่ 2 มก. โดยมีข้อบ่งใช้ให้ทานก่อนเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมง สูงสุดติดต่อกันไม่เกิน 13 สัปดาห์ในผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป หลังจากนั้นอาการง่วงนอนจะเกิดขึ้นเองอย่างช้าๆ
การซื้อยาเมลาโทนินมาใช้ ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน เช่น 0.5-1 มก. แล้วค่อยๆ เพิ่มขนาดยาขึ้นไป อย่างไรก็ดีเมลาโทนินไม่ควรใช้ติดต่อกันในระยะยาว และต้องอยู่ในความดูแลของเพทย์และเภสัชกรเท่านั้นครับ
สวัสดีคะคุณหมอ
พอดีไม่มีปัญหาตอนเข้านอน 3-4 ทุ่ม หัวถึงหมอนไม่กี่นาทีก็หลับเลย แต่ชอบตื่นกลางดึกแล้วหลับต่อยากคะ สามารถกินเมลาโทนินช่วงตื่นกลางดึกได้มั้ยคะ
ไม่แนะนำให้ทานเมลาโทนินระหว่างที่ตื่นกลางดึกนะครับ โดยเมลาโทนินประเภทที่ค่อยๆ ออกฤทธิ์ทีละน้อย ซึ่งเป็นประเภทที่มีจำหน่ายเป็นยาในไทย จะให้ทานก่อนนอนประมาณ 1 ชั่วโมง (โดยสามารถใช้ติดต่อกันได้สูงสุดไม่เกิน 13 สัปดาห์)