ภาวะหยุดหายใจขณะหลับกับโรคหลอดเลือดในสมอง
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศ ทุกวัย แต่โดยส่วนมากแล้วจะพบในวัยทำงานและวัยผู้สูงอายุ ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้หลายอย่าง โดยหนึ่งในนั้นก็คือโรคหลอดเลือดในสมอง แล้วภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีความสัมพันธ์กับโรคหลอดเลือดในสมองอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้
รู้จักภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) หรือ OSA เป็นภาวะที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังนอนหลับ ซึ่งมีสาเหตุมาจากอาการนอนกรนอย่างรุนแรง กล่าวคือมีการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้นทำให้การหายใจลำบากขึ้น สมองจะรับรู้และสั่งการให้เพิ่มแรงในการหายใจ ส่งผลให้สมองปลุกเราให้ตื่นเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อช่องคอกลับมาตึงตัวและเปิดทางเดินหายใจอีกครั้ง โดยวงจรเหล่านี้จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ หลายครั้งในแต่ละคืน ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุและความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคเส้นเลือดในสมอง
ภาวะหยุดหายใจขณะหลับกับโรคเส้นเลือดในสมอง
ในขณะที่เรานอนหลับและมีอาการนอนกรนชนิดรุนแรงจนมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนคือ เรื่องของระบบหัวใจและหลอดเลือด เพราะการที่ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จะทำให้หัวใจและหลอดเลือดต้องทำงานหนัก และอาจก่อให้เกิดโรคเส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดสมองแตกได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันสะสมและอุดตันในเส้นเลือด โดยอาจมีอาการที่สามารถสังเกตได้ในเบื้องต้นดังต่อไปนี้
- ปวดศีรษะ เวียนศีรษะบ่อยครั้ง
- ตามัว มองเห็นภาพซ้อน
- เดินเซ ทรงตัวลำบาก
รับมือกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับอย่างไรได้บ้าง
- สังเกตอาการ
ท่านใดที่ยังไม่แน่ใจว่าตนเองมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่สามารถสังเกตได้ จากอาการดังต่อไปนี้- นอนกรนดังมากเป็นประจำ
- รู้สึกนอนไม่เต็มอิ่ม ไม่สดชื่น
- คอแห้งทุกครั้งที่ตื่นนอน
- ปวดศีรษะเป็นประจำทุกเช้า
- หายใจไม่เป็นจังหวะสม่ำเสมอ
- พบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
หากประสบปัญหานอนกรนจนรบกวนชีวิตประจำวัน ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมกับคู่สมรสหรือผู้ที่สังเกตเห็นอาการของท่านขณะนอน เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งสามารถเข้ารับการตรวจได้หลายวิธีตามดุลยพินิจของแพทย์ ตั้งแต่- ตรวจร่างกายเบื้องต้น
- ตรวจพิเศษ (ตรวจท่าทางการนอน)
- ตรวจความผิดปกติจากการนอน (Polysomnography : PSG/Sleep Lab)
อ่านบทความเรื่อง การรักษาอาการนอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ